ท่าเรือเสริมแกร่งหลังบ้าน ปาดหน้าคว้าปราการหลังฝาแฝดเข้าร่วมทีม



เมื่อหันมาดูความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะไทยลีกแล้วละก็ ข่าวใหญ่ในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการคว้าตัวปราการหลังฝาแฝดอนาคตไกลทีมชาติไทย แบบแพ็คคู่ของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือเอฟซี ที่จัดการปิดดีลคว้าคู่แฝด “อักษรศรี” ทิตาธร-ทิตาวีร์ มาร่วมทีมได้สำเร็จปาดหน้าทีมใหญ่ร่วมลีกที่ได้แต่มองตามด้วยความเสียดาย

สำหรับคู่แฝดทั้งสองคนแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับทีมชาติไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนทำให้เป็นที่จับตามองของทีมใหญ่ในไทยลีก โดยเฉพาะบุรีรัมย์และเมืองทองที่ปิดศึกนอกสนามกันแย่งตัวทั้งคู่มาก่อน แต่ไม่สามารถยื่นข้อเสนอเอาชนะใจต้นสังกัดเดิมอย่างโปลิสเทโรได้สำเร็จ ก่อนที่จะเป็นทางสิงห์เจ้าท่าที่ยอมทุ่มเงินมหาศาล ว่ากันว่าท่าเรือยอมจ่ายให้เทโรถึง 35 ล้านบาทเลยทีเดียวสำหรับค่าตัวของทั้งคู่

ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทางโปลิสเทโรเห็นว่ามากพอที่จะให้พวกเขาหาตัวแทนของทั้งคู่หากมีความจำเป็น แต่สำหรับแผนรับมือในช่วงแรกทาง “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ก็ได้เตรียมไว้แล้วด้วยการหันกลับไปใช้แบ็คขวาตัวเก๋าอย่าง เอกชัย สำเร ส่วนทางซ้ายก็มีณัฐพล สุขไชยกับนพพล ปิตะฝ่าย คอยสลับกันลงเล่น ส่วนแผนในระยะยาวก็ยังมีแผนปลุกปั้นคู่แฝดคู่ใหม่ อย่างอนุศักดิ์และอนุสรณ์ ใจเพชร ดาวรุ่งดีกรีทีมชาติชุดไม่เกิน 19 ปี ขึ้นมาแทนที่อีกด้วย ดังนั้นเม็ดเงินสูงถึง 35 ล้านบาทจึงทำให้โปลิสเทโรยอมปล่อยคู่แฝดอนาคตไกลออกไปอย่างไม่ลังเล

สำหรับทางการท่าเรือเองการย้ายเข้ามาของทั้งคู่ แน่นอนว่ามันจะช่วยเกมรับของท่าเรือแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เมื่อมีแฝดดาวรุ่งเข้ามาเสริมกับบรรดาผู้เล่นแนวรับชื่อดังที่พวกเขามี ไม่ว่าจะเป็นดาบิด โรเซล่า, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เควิน ดีรมรัมย์ รวมไปถึงอดิศร พรมรักษ์ รุ่นพี่ทีมชาติที่พึ่งจะย้ายเข้ามาร่วมทีมอีกคนเช่นกัน ซึ่งดูจากรายชื่อของผู้เล่นแนวรับที่มีแล้วแนวรุกของคู่แข่งต้องมีขยาดกันบ้างเลยล่ะ ซึ่งต้องดูว่าทาง “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภเฮดโค้ชของทีมว่าจะใช้ประโยชน์จากเหล่าซูเปอร์สตาร์เหล่านี้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือทันทีพวกเขาดึงตัว ทิตาธร-ทิตาวีร์เข้ามาร่วมทีม ในแง่ของมูลค่าทางการตลาดแล้ว มันทำให้การท่าเรือถูกยกให้เป็นทีมที่มีผู้เล่นแนวรับมูลค่าสูงที่สุดในไทยลีก จากการประเมินของทรานสเฟอร์มาร์เก็ต ที่ทำการประเมินจากมูลค่าทางการตลาดของผู้เล่นที่มีสูงถึง 78.04 ล้านบาท ถึงแม้ว่าทรานสเฟอร์มาเก็ตจะประเมินค่าตัวของคู่แฝดไว้ต่ำกว่าราคาซื้อจริงหลายเท่าแล้วก็ตาม

ถ้าดูในแง่ของมูลค่าแล้วอาจจะมองว่าท่าเรือยอมจ่ายเงินสูงเกินค่าตัวที่ประเมินไปมาก แต่หากดูจากคุณภาพฝีเท้าของคู่แฝด “อักษรศรี” บวกกับการที่ทั้งคู่มีอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น ทางมาดามแป้งและทีมงานท่าเรือคงจะเล็งเห็นแล้วว่าในอนาคตทั้งสองคนนี้ จะพัฒนาและยกระดับตัวเองขึ้นไปสูงกว่านี้ ทั้งในด้านของฝีเท้าและประสบการณ์ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะทำให้มูลค่าทางการตลาดของพวกเขาขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับรุ่นพี่ และการพัฒนาของทั้งคู่จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับทีมสิงห์เจ้าท่า รวมไปถึงอนาคตของฟุตบอลทีมชาติไทย ตอนนี้แฟนบอลของสิงห์เจ้าท่าคงอยากจะเห็นทั้งคู่ลงสนามในสีเสื้อของทีม จนแทบจะอดใจไม่ไหวกันแล้วอย่างแน่นอน