Category Archives: รักบี้

ความมุ่งมั่นของอังกฤษ สู่การทลายบัลลังก์ของนิวซีแลนด์ ออลแบล็กส์



ถึงแม้ว่าสุดท้ายทีมชาติอังกฤษจะไปไม่ถึงฝั่งฝันในการคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ให้แก่แอฟริกาใต้ในนัดชิงชนะเลิศ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในทัวร์นาเมนท์ชิงแชมป์โลกครั้งที่ผ่านมาก็คือ การที่พวกเขาสามารถโค่นทีมอันดับหนึ่งของโลก อย่างนิวซีแลนด์ ออลแบล็กส์ได้อย่างสวยงามในรอบรองชนะเลิศนั่นเอง ซึ่งมันเป็นชัยชนะที่มีความหมายอย่างมากสำหรับพวกเขาเอง

อย่างที่รู้กันว่าในวงการรักบี้โลกนั้น ทีมแกร่งอย่างนิวซีแลนด์ ออลแบล็กส์นั้นครองความยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างยาวนานนับสิบปี ดังนั้นเมื่อคุณอยู่บนจุดที่สูงที่สุดบรรดาคู่แข่งต่างก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องดึงคุณลงมาจากจุดนั้นให้ได้ เช่นเดียวกับทีมชาติอังกฤษที่มองว่าเป้าหมายในการแข่งขัน รักบี้ชิงแชมป์โลกในครั้งนี้นั้น นอกจากการคว้าแชมป์แล้วสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่พวกเขาจะต้องทำให้ได้ก็คือ การโค่นบัลลังก์ของนิวซีแลนด์ ออลแบล็กส์นั่นเอง ซึ่งเฮดโค้ชของทีมอังกฤษอย่างเอ็ดดี้ โจนส์ ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาใช้เวลาในการวางแผนเพื่อโค่นออลแบล็กส์ยาวนานถึงสองปีครึ่งเลยทีเดียว เพื่อที่จะหาวิธีรับมือกับเกมรุกที่ลื่นไหลและรวดเร็วของพวกเขา และในที่สุดโจนส์ก็ค้นพบวิธีหยุดพลังการบุกของออลแบล็กส์ ด้วยการเพิ่มความดุดันและรวดเร็วให้กับเกมรับของพวกเขา เพื่อช่วงชิงพื้นที่และเวลามาจากออลแบล็กส์ให้ได้มากที่สุด และพวกเขาก็ทำสำเร็จด้วยการจบเกมด้วยผลการแข่งขันที่ดีกว่าด้วยสกอร์ 19-7 จุด

นอกจากความมุ่งมั่นของทางอังกฤษแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการแข่งขันออกมาแบบนี้ ว่ากันว่ามันเกิดจากความประมาทของนิวซีแลนด์เอง ซึ่งเกิดจากการมองข้ามฝีมือทีมรักบี้จากฝั่งยุโรป เพราะพวกเขามีลีกอาชีพที่แข่งแกร่งกว่า รวมไปถึงผลงานบนเวทีโลกของฝั่งยุโรปก็มีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่พวกเขาได้แชมป์ ก็คืออังกฤษในปี 2003 นั่นเอง ดังนั้นการพัฒนาการเล่นของนิวซีแลนด์จึงเหมือนเป็นการพัฒนาเพื่อแข่งขันในลีกของพวกเขาเอง โดยไม่มีการศึกษาพัฒนาการของคู่แข่งอย่างอังกฤษ ถ้าเปรียบกับมวยนิวซีแลนด์คือยอดมวยชื่อดัง ที่ฝึกซ้อมและขึ้นชกและได้รับชัยชนะมายาวนาน และไม่ได้สนใจอะไรนอกจากคู่แข่งบนเวที ในขณะที่อังกฤษกลับนั่งดูถ่ายทอดสดทุกการชกของพวกเขา และหาวิธีแก้ทางมวยมาตั้งแต่บ้านแล้ว โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

แต่สิ่งหนึ่งนอกจากเวลาสองปีครึ่งที่ใช้เตรียมทีมแล้ว สิ่งที่ทางฝั่งอังกฤษต้องใช้เพื่อจัดการกับนิวซีแลนด์ก็คือ พลังกำลังทั้งหมดที่พวกเขามีนั่นเอง ซึ่งว่ากันว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาโดนสปริงบอกส์อัดซะยับเยินในนัดชิงชนะเลิศ เพราะพวกเขานั้นหมดพลังไปตั้งแต่การหยุดออลแบล็กส์แล้วนั่นเอง และการหยุดอันดับหนึ่งของโลก แล้วมาเจอกับอดีตแชมป์โลกสองสมัยต่อ มันก็ดูเหมือนเป็นงานยากเกินกว่าที่พวกเขาจะผ่านมันไปได้ แต่อย่างน้อย ๆ ในรายการนี้พวกเขาก็ได้สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีชได้สำเร็จ และชัยชนะนั้นของพวกเขาจะเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาในครั้งต่อไป แต่อีกทางหนึ่งก็จะคือพวกเขาจะต้องเจองานยากอย่างแน่นอน เพราะชัยชนะครั้งนี้จะทำให้บรรดาคู่แข่งจับตามองเขามากขึ้น และออลแบล็กส์เองก็คงไม่ประมาทเหมือนเดิมอีกแล้วนั่นเอง

หญิงแกร่งทีมชาติไทย ยังครองความยิ่งใหญ่เหนือคู่แข่งในซีเกมส์



ยังคงทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมสำหรับทัพนักกีฬารักบี้เจ็ดคนหญิงไทย ในการแข่งขันกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียน หรือซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ เมื่อพวกเธอสามารถป้องกันแชมป์คว้าเหรียญทองมาได้อีกหนึ่งสมัย ตอกย้ำว่าพวกเธอนี่แหละคือหมายเลขหนึ่งแห่งภูมิภาคเอเชียตะวัน ตะวันออกเสียงใต้ ในกีฬาประเภทนี้

สำหรับกีฬารักบี้ฟุตบอลในภูมิภาคของเรายังถือว่าไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ก็มีการบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือซีเกมส์โดยมีการบรรจุเข้าสู่การแข่งขันครั้งแรกในปี 1995 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้นก็มีการจัดบ้างไม่จัดบ้างตามแต่เจ้าภาพจะเห็นสมควร ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนมาเป็นการแข่งขันแบบทีมเจ็ดคนในปัจจุบัน ซึ่งทัพนักกีฬาทีมชาติไทยก็มีผลงานค่อนข้างดี อยู่ในระดับหัวแถวของภูมิภาคมาตลอดโดยเฉพาะในการแข่งขันในประเภทหญิงที่สาวแกร่งของไทยเรา สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้อย่างต่อเนื่อง

และในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งล่าสุดฟิลิปปินส์ 2019 ที่ผ่านมาก็เช่นกัน ทัพนักกีฬาสาวไทยลงทำการแข่งขันในฐานะเต็งหนึ่งของรายการ เมื่อพวกเธอมาพร้อมกับผลงานเหรียญทองสามสมัยซ้อนไว้ข่มขวัญคู่แข่งตั้งแต่ก่อนลงสนาม โดยคู่แข่งที่ร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 6 ประเทศคือ ไทย, ฟิลิปปินส์(เจ้าภาพ), มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์และลาว ซึ่งในการแข่งขันรอบแรกที่แข่งแบบพบกันหมด นักกีฬาสาวไทยก็สามารถเก็บชัยชนะมาได้ทั้งหมดห้าเกมรวด กวาดคะแนนมาถึง 186 จุดและเสียให้คู่แข่งไปเพียงแค่ 12 จุดเท่านั้นเอง คว้าสิทธิ์การชิงเหรียญทองกับทีมอันดับสองของตารางอย่างทีมชาติฟิลิปปินส์ และในการแข่งขันรอบชิงเหรียญทองพวกเธอก็จัดการทุบคู่แข่งไปแบบไม่ไว้หน้าชาติเจ้าภาพ เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 17-7 จุด คว้าเหรียญทองมาครองเป็นสมัยที่สี่ติดต่อกันให้กับประเทศไทยได้อย่างยิ่งใหญ่ ครองความเป็นจ้าวอาเซียนและอันดับที่ 4 ของทวีปเอเชียได้อย่างสมศักดิ์ศรี

ไม่เพียงแค่ทีมหญิงเท่านั้นที่คว้าเหรียญมาได้สำเร็จ ในประเภททีมชายเจ็ดคนนั้นทีมชาติไทยก็จบรอบแข่งพบกันหมดในอันดับที่ 4 ของตาราง ได้สิทธิ์เข้าไปชิงเหรียญทองแดงกับทีมชาติสิงคโปร์ และพวกเขาก็สามารถเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์มาได้  12-5 จุดคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เพิ่มเหรียญให้กับทัพนักกีฬาไทยได้อีกหนึ่งเหรียญเช่นกัน

จากการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมาของทัพนักกีฬารักบี้ฟุตบอลหญิงไทย สิ่งหนึ่งที่แฟนกีฬาได้เห็นก็คือนักกีฬาชุดนี้ เป็นชุดที่ผสมผสานระหว่างนักกีฬาตัวเก๋ากับดาวรุ่งได้อย่างลงตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาต่อเนื่องของวงการรักบี้ไทย ที่จะยกระดับทีมขึ้นไปให้สูงกว่าระดับอาเซียนในอนาคต รวมไปถึงความสำเร็จนี้ยังจะช่วยดึงดูดความสนใจให้กับนักกีฬาเยาวชนหน้าใหม่ ๆ ให้หันมาสนใจในกีฬารักบี้มากขึ้น เพื่อสานต่อความสำเร็จให้กับนักกีฬาไทยรุ่นต่อ ๆ ไป

รักบี้ประเพณี ศึกแห่งศักดิ์ศรีของสุภาพบุรุษ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย



ถ้าจะพูดถึงการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย ทุกคนคงจะนึกไปถึงการแข่งขันรักบี้ประเพณีระหว่าง “วชิราวุธวิทยาลัย” กับ “ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย” อย่างแน่นอน เพราะการแข่งขันรักบี้ประเพณีของสองโรงเรียนสุภาพบุรุษชายล้วนทั้งสองแห่งนี้ ถือเป็นการแข่งขันที่มีมาอย่างยาวนาน เพื่อช่วงชิงชัยชนะที่หมายถึงการครองถ้วยพระราชทาน และศักดิ์ศรีเหนือคู่รักคู่แค้นตลอดกาล ภายใต้กฎกติกาแห่งลูกผู้ชาย

โดยการแข่งขันรักบี้ประเพณีระหว่างสองโรงเรียนชายล้วนเก่าแก่ของประเทศนี้มีมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มมีการแข่งขันกันมาตั้งแต่ปี 2526 ตามพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงจัดตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัยขึ้นมาใหม่ และทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ประกอบนามโรงเรียน และทรงมีพระราชประสงค์ให้สองโรงเรียนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นฉันท์พี่น้องกัน จึงถือกำเนิดการแข่งขันรักบี้ประเพณีระหว่าง วชิราวุธวิทยาลัย กับ ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นนับแต่นั้นมา

จากวันนั้นถึงวันนี้บรรดาพี่น้องโรงเรียนชายล้วนทั้งสองแห่ง ขับเคี่ยวแย่งชิงความเป็นหนึ่งในวงการรักบี้มัธยมของประเทศไทยมาแล้วถึง 27 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเป็นทาง ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยสามารถเอาชนะไปได้ ซึ่งเป็นการครองแชมป์ของราชวิทย์เป็นสมัยที่ 17 จากทั้งหมดที่จัดการแข่งขันมา ส่วนวชิราวุธวิทยาลัยครองแชมป์ทั้งหมด 8 ครั้งและเสมอครองแชมป์ร่วมกัน 2 สมัย ซึ่งปกติแล้วการแข่งขันรักบี้ประเพณีชิงถ้วยพระราชทานนี้ จะจัดขึ้นทุก ๆ ปีและมีเว้นว่างไปบ้างตามความเหมาะสม โดยจัดการแข่งขันได้รับความนิยมจากคณะศิษย์เก่าและผู้คนทั่วไปจำนวนมาก จนต้องมีการจัดการแข่งขันในสนามกีฬาขนาดใหญ่ระดับชาติ อย่างสนามศุภชลาศัย หรือสนามกีฬาธูปเตมีย์อย่างในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นของสองโรงเรียนแล้ว เงินรายได้จากการแข่งขันทั้งหมดยังบริจาคให้การกุศลอีกด้วย

ถึงแม้จะเป็นการแข่งขันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ แต่ในสนามทั้งสองทีมต่างก็ทุ่มสุดตัวแบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ใช้กีฬาสุภาพบุรุษอย่างรักบี้เป็นเครื่องตัดสิน เพราะถึงแม้จะทุ่มสุดแรงใส่กันในการแข่งขันเพียงใด ก็เป็นเพียงแค่การใช้กำลังตามกฎกติกามารยาทของกีฬาเท่านั้น หลังจบเกมทั้งสองโรงเรียนก็คือสองโรงเรียนพี่น้องสุภาพบุรุษที่แน่นแฟ้นกันที่สุดของประเทศเช่นเดิม

การแข่งขันรักบี้ประเพณีของทั้งสองโรงเรียนนั้น นอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของทั้งสองโรงเรียน รวมไปถึงประโยชน์ในด้านการกุศลแล้ว การแข่งขันรายการนี้นับว่าเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของวงการรักบี้ประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งสองโรงเรียนถือว่าเป็นแหล่งผลิตนักกีฬารักบี้ ขึ้นสู่ทีมชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการบรรจุกีฬารักบี้ในโรงเรียนกีฬาหรือสถาบันพละศึกษาต่าง ๆ แล้วก็ตาม แต่ทั้งสองโรงเรียนก็ยังมีนักเรียนและศิษย์เก่าก้าวไปสู่ทีมชาติได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยความสัมพันธ์อันดีของพี่น้องทั้งสองโรงเรียน คงจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวงการรักบี้บ้านเราไปได้อีกนานเลยทีเดียว

แอฟริกาใต้ แชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่และมีค่า มากกว่าเพียงแค่ชัยชนะ



สำหรับการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกฉบับโตเกียว 2019 จบลงด้วยการคว้าแชมป์อย่างสวยงามของแอฟริกาใต้ ที่พวกเขาสามารถโค่นอังกฤษคว้าแชมป์มาได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ ในการแข่งขันครั้งแรกนอกดินแดนฮาร์ทแลนด์ และเป็นการคว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่สามสำหรับพวกเขาอีกด้วย หลังเคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 1995 บนแผ่นดินของตัวเองและปี 2007 ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ

พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ เป็นหนึ่งในสองทีมตัวแทนจากทวีปแอฟริการ่วมกับนามีเบีย โดยพวกเขาเข้ารอบมาแบบอัตโนมัติและถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งในฐานะทีมอันดับที่ 7 ของโลก และนั่นก็ทำให้พวกเขาอยู่ในโถที่ 2 ในการจับฉลากแบ่งกลุ่ม ซึ่งผลการจัดกลุ่มก็คือพวกเขาต้องอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับทีมอันดับหนึ่งของโลกอย่างนิวซีแลนด์ “ออลแบล็กส์” นั่นเอง และพวกเขาก็เริ่มต้นทัวร์นาเมนท์ด้วยความพ่ายแพ้ต่อนิวซีแลนด์ แต่ก็สามารถเอาชนะได้ทั้งหมดในอีกสามเกมที่เหลือ จะสามารถพาตัวเองผ่านเข้ารอบตามนิวซีแลนด์ไปได้ในที่สุด ในรอบแปดทีมสุดท้ายพวกเขาต้องเจอกับทีมชาติเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นแชมป์กลุ่มเอ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าภาพแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรองพวกเขาอยู่พอสมควร และเหล่าสปริงบอกส์ก็สามารถเอาชนะไปได้แบบขาดลอยที่ 26 จุดต่อ 3 จุด ผ่านเข้ารอบรองไปพบกับทีมชาติเวลส์ทีมอันดับ 8 ของโลกหนึ่งในทีมแกร่งจากสหราชอาณาจักร ซึ่งพวกเขาก็เบียดเอาชนะไปได้ 19 จุดต่อ 16 จุด ผ่านเข้าไปชิงกับทีมชาติอังกฤษ ที่โค่นออลแบล็กส์ทีมแกร่งที่เอาชนะพวกเขามาได้ในรอบแรก เข้ามาชิงได้อย่างเหนือความคาดหมาย แต่ก็ดูเหมือนว่าพลังทั้งหมดของอังกฤษจะถูกใช้ไปในการพิชิตออลแบล็กส์ จนทำให้แอฟริกัน สปริงบอกส์ถล่มไปขาดลอยถึง 32 จุดต่อ 12 จุดคว้าแชมป์โลกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

และสำหรับทีมแอฟริกาใต้นั้นการคว้าแชมป์ครั้งนี้ มันมีความหมายมากมายกว่าการเป็นที่หนึ่งของโลกในวงการรักบี้ แต่สำหรับพวกเขากีฬาชนิดนี้เปรียบเหมือนสิ่งหล่อหลอม ปัญหาความแตกแยกทางด้านสีผิวของผู้คนภายในประเทศ โดยครั้งแรกที่พวกเขาได้ตำแหน่งแชมป์โลกเมื่อปี 1995 พวกเขาประสบปัญหาการแตกแยกระหว่างสีผิวอย่างหนัก และมหาบุรุษอย่างเนลสัน แมนเดลล่า ประธานาธิบดีผิวสีที่กำลังดำรงตำแหน่งในขณะนั้น ได้ใช้กีฬารักบี้และตำแหน่งแชมป์โลกในปีนั้น เป็นสิ่งเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนผิวดำและผิวขาวในประเทศ จนมาถึงทุกวันนี้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้นยังคงมีอยู่ทั่วไปในแอฟริกา และภายใต้การนำทีมชุดนี้ของ “ซิย่า โคลิซี่” ซึ่งเป็นกัปตันทีมผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขา และสามารถพาทีมคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ นั่นเท่ากับว่าสิ่งเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสีผิวและชนชั้นของแอฟริกาใต้ ได้หวนกลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่งอย่างทรงพลัง

ปัญหาการแบ่งแยกชนชั้นและสีผิว ปัญหาความขาดแคลนยากไร้ การก่อการร้ายและฆาตกรรม เป็นปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในแอฟริกา และสำหรับสปริงบอกส์พวกเขาใช้แรงผลักดันจากปัญหาเหล่านั้น เป็นการสร้างแรงบันดาลใจไปสู่ชัยชนะ เพื่อที่หวังให้ชัยชนะ ช่วยผลักดันให้ผู้คนในสังคมก้าวผ่านปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานนี้ได้เสียที วันนี้พวกเขาทำมันได้สำเร็จอีกครั้งในส่วนของชัยชนะ ซึ่งยิ่งใหญ่เกินกว่าเพียงคำว่าชัยชนะสำหรับการแข่งขันกีฬาทั่วไป

เครดิตภาพ : https://japan-forward.com/south-africa-conquers-england-to-win-rwc-2019-finals/

การฉายแสงสู่โลกตะวันออกของรักบี้ บนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย



ถึงแม้ว่าการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2019 จะจบลงไปแล้ว แต่ทัวร์นาเมนท์รักบี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้ ยังคงมีเรื่องราวดี ๆ ให้แฟนกีฬารักบี้ได้จดจำและกล่าวถึงจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของความสำเร็จในการนำกีฬารักบี้เข้ามาสู่ซีกโลกตะวันออกได้อย่างสวยงาม ผ่านศักยภาพของประเทศเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นนั่นเอง

เดิมทีกีฬารักบี้นั้นได้รับความนิยมอยู่ในเฉพาะบางประเทศเท่านั้น และการจัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกก็มักจะจัดขึ้นในประเทศที่กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมหรือเรียกว่าเป็นกีฬาประจำชาติ อย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จากโซนโอเชเนีย สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจากยุโรป รวมไปถึงแอฟริกาใต้เท่านั้นเอง ด้วยเหตุผลในเรื่องของความนิยมในกีฬาชนิดนี้เองนั่นแหละ ที่เป็นเหตุผลให้เกิดการจำกัดพื้นที่การแข่งขันอยู่ในวงจำกัดเช่นนั้น เพราะถ้าจัดในพื้นที่ที่ไม่ได้รับความนิยม แล้วไม่มีแฟนกีฬาเข้าไปชมก็คงจะทำให้งานกร่อยอย่างแน่นอน

แต่เหมือนว่าความกล้าในการก้าวออกสู่ดินแดนที่ไม่ใช่โลกของรักบี้ หรือที่เรียกกันว่า “ฮาร์ทแลนด์”ในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างที่สุด เมื่อประเทศสมาชิกเลือกที่จะโหวตให้ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันในครั้งนี้ เพราะญี่ปุ่นเองก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของเอเชียในกีฬารักบี้ และรั้งอยู่ในอันดับ 11 ของโลกอีกด้วย นั่นทำให้การันตีเรื่องแฟนกีฬาในประเทศได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่เคยมีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพมาก่อนก็ตาม เพราะถึงแม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรักบี้ที่ออกนอกฮาร์ทแลนด์เป็นครั้งแรก หรือญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพครั้งแรก แต่ต้องบอกว่ามันกลายเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากเลยสำหรับทุกฝ่าย เมื่อทางเจ้าภาพใช้ศักยภาพที่มี ทั้งทางเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย  ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สร้างกระแสความนิยมให้แก่กีฬารักบี้ไปทั่วโลก และมันกระตุ้นความสนใจผู้คนได้อย่างมากมาย จากหลักฐานด้านตัวเลขต่าง ๆ ที่ชี้ชัดไม่ว่าจะเป็นยอดการจำหน่ายตั๋วเข้าชม ที่ขายได้ถึง 1.8 ล้านใบตลอดการแข่งขัน มีการถ่ายทอดสดสู่ผู้ชมทั่วโลกราว 400 ล้านคน และมียอดวิวส์ของผู้ติดตามผ่านยูทูปถึง 1700 ล้านครั้ง รวมไปถึงการที่สามารถพบเจอแฟนกีฬาสวมเสื้อรักบี้ออกไปเดินตามท้องถนนที่มีให้เห็นทั่วไป เหมือนกับกีฬาที่ได้รับความนิยมอื่น ๆ ซึ่งต้องถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปรากฏการใหม่ของวงการรักบี้เลยทีเดียว รวมไปถึงด้านผลงานในสนาม เมื่อเจ้าภาพญี่ปุ่นสามารถโค่นทีมชั้นนำของโลกได้ทั้งไอร์แลนด์ และสก็อตแลนด์ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้อย่างสวยงาม ถึงแม้ว่าจะพ่ายตกรอบให้กับแชมป์อย่างแอฟริกาใต้ในรอบต่อมา แต่ก็ต้องบอกเลยว่าสมศักดิ์ศรีอย่างที่สุด สำหรับทีมจากทวีปเรา

หลังจากการแข่งขันรายการนี้จบลงไป หลายสิ่งที่ตามมาได้สร้างสิ่งที่ล้ำค่าให้กับวงการกีฬารักบี้โลก ไม่ว่าจะเป็นการปลุกกระแสความนิยมกีฬารักบี้ในดินแดนใหม่ ๆ ทำให้รักบี้ก้าวขึ้นไปสู่อีกหนึ่งชนิดกีฬายอดนิยมของโลก รวมไปถึงผลงานในสนามของชาติเจ้าภาพ จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในวงการรักบี้เอเชียในอนาคตอย่างแน่นอน นั่นเท่ากับว่าเราจะได้สัมผัสความสนุกตื่นเต้นของกีฬาแห่งสุภาพบุรุษนี้ อย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้นี้ตามไปด้วยนั่นเอง