Tag Archives: รักบี้

แอฟริกาใต้ แชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่และมีค่า มากกว่าเพียงแค่ชัยชนะ



สำหรับการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกฉบับโตเกียว 2019 จบลงด้วยการคว้าแชมป์อย่างสวยงามของแอฟริกาใต้ ที่พวกเขาสามารถโค่นอังกฤษคว้าแชมป์มาได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ ในการแข่งขันครั้งแรกนอกดินแดนฮาร์ทแลนด์ และเป็นการคว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่สามสำหรับพวกเขาอีกด้วย หลังเคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 1995 บนแผ่นดินของตัวเองและปี 2007 ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ

พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ เป็นหนึ่งในสองทีมตัวแทนจากทวีปแอฟริการ่วมกับนามีเบีย โดยพวกเขาเข้ารอบมาแบบอัตโนมัติและถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งในฐานะทีมอันดับที่ 7 ของโลก และนั่นก็ทำให้พวกเขาอยู่ในโถที่ 2 ในการจับฉลากแบ่งกลุ่ม ซึ่งผลการจัดกลุ่มก็คือพวกเขาต้องอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับทีมอันดับหนึ่งของโลกอย่างนิวซีแลนด์ “ออลแบล็กส์” นั่นเอง และพวกเขาก็เริ่มต้นทัวร์นาเมนท์ด้วยความพ่ายแพ้ต่อนิวซีแลนด์ แต่ก็สามารถเอาชนะได้ทั้งหมดในอีกสามเกมที่เหลือ จะสามารถพาตัวเองผ่านเข้ารอบตามนิวซีแลนด์ไปได้ในที่สุด ในรอบแปดทีมสุดท้ายพวกเขาต้องเจอกับทีมชาติเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นแชมป์กลุ่มเอ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าภาพแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรองพวกเขาอยู่พอสมควร และเหล่าสปริงบอกส์ก็สามารถเอาชนะไปได้แบบขาดลอยที่ 26 จุดต่อ 3 จุด ผ่านเข้ารอบรองไปพบกับทีมชาติเวลส์ทีมอันดับ 8 ของโลกหนึ่งในทีมแกร่งจากสหราชอาณาจักร ซึ่งพวกเขาก็เบียดเอาชนะไปได้ 19 จุดต่อ 16 จุด ผ่านเข้าไปชิงกับทีมชาติอังกฤษ ที่โค่นออลแบล็กส์ทีมแกร่งที่เอาชนะพวกเขามาได้ในรอบแรก เข้ามาชิงได้อย่างเหนือความคาดหมาย แต่ก็ดูเหมือนว่าพลังทั้งหมดของอังกฤษจะถูกใช้ไปในการพิชิตออลแบล็กส์ จนทำให้แอฟริกัน สปริงบอกส์ถล่มไปขาดลอยถึง 32 จุดต่อ 12 จุดคว้าแชมป์โลกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

และสำหรับทีมแอฟริกาใต้นั้นการคว้าแชมป์ครั้งนี้ มันมีความหมายมากมายกว่าการเป็นที่หนึ่งของโลกในวงการรักบี้ แต่สำหรับพวกเขากีฬาชนิดนี้เปรียบเหมือนสิ่งหล่อหลอม ปัญหาความแตกแยกทางด้านสีผิวของผู้คนภายในประเทศ โดยครั้งแรกที่พวกเขาได้ตำแหน่งแชมป์โลกเมื่อปี 1995 พวกเขาประสบปัญหาการแตกแยกระหว่างสีผิวอย่างหนัก และมหาบุรุษอย่างเนลสัน แมนเดลล่า ประธานาธิบดีผิวสีที่กำลังดำรงตำแหน่งในขณะนั้น ได้ใช้กีฬารักบี้และตำแหน่งแชมป์โลกในปีนั้น เป็นสิ่งเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนผิวดำและผิวขาวในประเทศ จนมาถึงทุกวันนี้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้นยังคงมีอยู่ทั่วไปในแอฟริกา และภายใต้การนำทีมชุดนี้ของ “ซิย่า โคลิซี่” ซึ่งเป็นกัปตันทีมผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขา และสามารถพาทีมคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ นั่นเท่ากับว่าสิ่งเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสีผิวและชนชั้นของแอฟริกาใต้ ได้หวนกลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่งอย่างทรงพลัง

ปัญหาการแบ่งแยกชนชั้นและสีผิว ปัญหาความขาดแคลนยากไร้ การก่อการร้ายและฆาตกรรม เป็นปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในแอฟริกา และสำหรับสปริงบอกส์พวกเขาใช้แรงผลักดันจากปัญหาเหล่านั้น เป็นการสร้างแรงบันดาลใจไปสู่ชัยชนะ เพื่อที่หวังให้ชัยชนะ ช่วยผลักดันให้ผู้คนในสังคมก้าวผ่านปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานนี้ได้เสียที วันนี้พวกเขาทำมันได้สำเร็จอีกครั้งในส่วนของชัยชนะ ซึ่งยิ่งใหญ่เกินกว่าเพียงคำว่าชัยชนะสำหรับการแข่งขันกีฬาทั่วไป

เครดิตภาพ : https://japan-forward.com/south-africa-conquers-england-to-win-rwc-2019-finals/

การฉายแสงสู่โลกตะวันออกของรักบี้ บนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย



ถึงแม้ว่าการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2019 จะจบลงไปแล้ว แต่ทัวร์นาเมนท์รักบี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้ ยังคงมีเรื่องราวดี ๆ ให้แฟนกีฬารักบี้ได้จดจำและกล่าวถึงจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของความสำเร็จในการนำกีฬารักบี้เข้ามาสู่ซีกโลกตะวันออกได้อย่างสวยงาม ผ่านศักยภาพของประเทศเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นนั่นเอง

เดิมทีกีฬารักบี้นั้นได้รับความนิยมอยู่ในเฉพาะบางประเทศเท่านั้น และการจัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกก็มักจะจัดขึ้นในประเทศที่กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมหรือเรียกว่าเป็นกีฬาประจำชาติ อย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จากโซนโอเชเนีย สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจากยุโรป รวมไปถึงแอฟริกาใต้เท่านั้นเอง ด้วยเหตุผลในเรื่องของความนิยมในกีฬาชนิดนี้เองนั่นแหละ ที่เป็นเหตุผลให้เกิดการจำกัดพื้นที่การแข่งขันอยู่ในวงจำกัดเช่นนั้น เพราะถ้าจัดในพื้นที่ที่ไม่ได้รับความนิยม แล้วไม่มีแฟนกีฬาเข้าไปชมก็คงจะทำให้งานกร่อยอย่างแน่นอน

แต่เหมือนว่าความกล้าในการก้าวออกสู่ดินแดนที่ไม่ใช่โลกของรักบี้ หรือที่เรียกกันว่า “ฮาร์ทแลนด์”ในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างที่สุด เมื่อประเทศสมาชิกเลือกที่จะโหวตให้ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันในครั้งนี้ เพราะญี่ปุ่นเองก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของเอเชียในกีฬารักบี้ และรั้งอยู่ในอันดับ 11 ของโลกอีกด้วย นั่นทำให้การันตีเรื่องแฟนกีฬาในประเทศได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่เคยมีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพมาก่อนก็ตาม เพราะถึงแม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรักบี้ที่ออกนอกฮาร์ทแลนด์เป็นครั้งแรก หรือญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพครั้งแรก แต่ต้องบอกว่ามันกลายเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากเลยสำหรับทุกฝ่าย เมื่อทางเจ้าภาพใช้ศักยภาพที่มี ทั้งทางเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย  ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สร้างกระแสความนิยมให้แก่กีฬารักบี้ไปทั่วโลก และมันกระตุ้นความสนใจผู้คนได้อย่างมากมาย จากหลักฐานด้านตัวเลขต่าง ๆ ที่ชี้ชัดไม่ว่าจะเป็นยอดการจำหน่ายตั๋วเข้าชม ที่ขายได้ถึง 1.8 ล้านใบตลอดการแข่งขัน มีการถ่ายทอดสดสู่ผู้ชมทั่วโลกราว 400 ล้านคน และมียอดวิวส์ของผู้ติดตามผ่านยูทูปถึง 1700 ล้านครั้ง รวมไปถึงการที่สามารถพบเจอแฟนกีฬาสวมเสื้อรักบี้ออกไปเดินตามท้องถนนที่มีให้เห็นทั่วไป เหมือนกับกีฬาที่ได้รับความนิยมอื่น ๆ ซึ่งต้องถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปรากฏการใหม่ของวงการรักบี้เลยทีเดียว รวมไปถึงด้านผลงานในสนาม เมื่อเจ้าภาพญี่ปุ่นสามารถโค่นทีมชั้นนำของโลกได้ทั้งไอร์แลนด์ และสก็อตแลนด์ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้อย่างสวยงาม ถึงแม้ว่าจะพ่ายตกรอบให้กับแชมป์อย่างแอฟริกาใต้ในรอบต่อมา แต่ก็ต้องบอกเลยว่าสมศักดิ์ศรีอย่างที่สุด สำหรับทีมจากทวีปเรา

หลังจากการแข่งขันรายการนี้จบลงไป หลายสิ่งที่ตามมาได้สร้างสิ่งที่ล้ำค่าให้กับวงการกีฬารักบี้โลก ไม่ว่าจะเป็นการปลุกกระแสความนิยมกีฬารักบี้ในดินแดนใหม่ ๆ ทำให้รักบี้ก้าวขึ้นไปสู่อีกหนึ่งชนิดกีฬายอดนิยมของโลก รวมไปถึงผลงานในสนามของชาติเจ้าภาพ จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในวงการรักบี้เอเชียในอนาคตอย่างแน่นอน นั่นเท่ากับว่าเราจะได้สัมผัสความสนุกตื่นเต้นของกีฬาแห่งสุภาพบุรุษนี้ อย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้นี้ตามไปด้วยนั่นเอง